Frequently Asked Questions

Other Languages: Dansk Deutsch Ελληνικά English Español Suomi Filipino Français Indonesian Italiano Japanese Korean Malay Bokmål Nederlands Polski Português - Brasil Português - Portugal Русский Svenska Türkçe Українська Vietnamese Chinese Taiwan Chinese

การจัดการ DNS สำหรับชื่อโดเมนของคุณ

Print this Article
Last Updated: February 18, 2015 11:24 AM

โดยใช้ DNS Manager ของเรา คุณสามารถใช้ Zone File Editor เพื่อเพิ่ม แก้ไข และลบเรคคอร์ดโซนไฟล์ของชื่อโดเมนของคุณที่จดทะเบียนกับเราหรือจดทะเบียนที่อื่นและใช้ DNS ของเรา (DNS ออฟไซต์) ได้

หมายเหตุ: คุณสามารถใช้ได้เฉพาะโปรแกรมแก้ไขไฟล์โซนเท่านั้นในการจัดการ DNS สำหรับชื่อโดเมนที่ใช้เนมเซิร์ฟเวอร์ของเรา หรืออีกนัยหนึ่งคือ หากคุณจดทะเบียนชื่อโดเมนที่นี่ คุณจะต้องพัก ส่งต่อ หรือโฮสต์ชื่อโดเมนนั้นกับเรา แต่หากจดทะเบียนชื่อโดเมนที่อื่น คุณต้องโฮสต์ชื่อโดเมนนั้นกับเราหรือใช้ DNS ออฟไซต์ของเรา หากชื่อโดเมนของคุณใช้เนมเซิร์ฟเวอร์ของบริษัทอื่นอยู่ คุณต้องติดต่อกับบริษัทดังกล่าวเพื่ออัพเดต DNS ของคุณ

การเปลี่ยนแปลง DNS เหล่านี้จะมีผลบนอินเทอร์เน็ต อาจจะใช้เวลาจนถึง 48 ชั่วโมง

ผู้ใช้ DNS แบบพรีเมียม: แทนที่จะใช้ขั้นตอนเหล่านี้ ให้ดูที่ Managing Premium DNS for Your Domain Names

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DNS ออฟไซต์ โปรดดูที่ Managing Domain Names with Off-site DNS

สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานกับโซนไฟล์และเรคคอร์ด โปรดดู Domain Name FAQ

สิทธิ์การเข้าใช้โซนไฟล์

สำหรับบัญชี DNS มาตรฐาน คุณมีสิทธิ์เข้าใช้โซนไฟล์จากรายละเอียดโดเมนของชื่อโดเมนของคุณถูกลงทะเบียนไว้ที่นี่ และใช้เนมเซิร์ฟเวอร์ของเรา (ไม่รวม CashParking® และ Quick Content)

หากชื่อโดเมนของคุณจดทะเบียนที่อื่นและใช้ DNS ออฟไซต์ของเรา ให้ใช้คำแนะนำใน Managing Domain Names with Off-site DNS เพื่อเข้าใช้ตัวแก้ไขไฟล์โซน

ในการเข้าถึงโซนไฟล์

  1. ล็อกอินเข้าสู่ ผู้ดูแลบัญชี
  2. ไปยังโดเมน แล้วคลิกเปิดใช้
  3. คลิกชื่อโดเมนที่คุณต้องการใช้
  4. คลิกที่แถบ DNS Zone File (DNS โซนไฟล์) ที่ด้านบนสุด

คลิกลิงค์ที่สัมพันธ์กับประเภทของโซนไฟล์ที่คุณต้องการจะเพิ่มหรือแก้ไข:

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด

เรคคอร์ด A (โฮสต์) จะเชื่อมต่อชื่อโดเมนกับที่อยู่ IP ของคุณ เรคคอร์ดช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้อนชื่อโดเมนของคุณในเว็บเบราว์เซอร์เพื่อเข้าถึงเว็บไซต์ของคุณได้ ซึ่งเรคคอร์ดเหล่านี้เป็นประเภทของเรคคอร์ดโซนที่ใช้กันมากที่สุด

การเพิ่มเรคคอร์ด A

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Add Record (เพิ่มเรคคอร์ด)
  2. จากรายการประเภทบันทึก ให้เลือก A (โฮสต์)
  3. กรอกฟิลด์ต่อไปนี้:
    • Host Name (ชื่อโฮสต์) — ใส่ชื่อโฮสต์ที่เรคคอร์ด A เชื่อมโยงด้วย พิมพ์ @ เพื่อชี้เรคคอร์ดไปยังชื่อโดเมนของคุณโดยตรง รวมถึง www
    • Points to IP Address (ชี้ไปที่ที่อยู่ IP) — ใส่ที่อยู่ IP ที่ชื่อโดเมนของคุณใช้สำหรับเรคอร์ดโฮสต์นี้
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  4. คลิก Save (บันทึก) จากนั้นคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง) เรคคอร์ด A ใหม่จะแสดงในส่วน A (Host)

การแก้ไขเรคคอร์ด A

  1. ในส่วน A (Host) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  2. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Host (โฮสต์) — ใส่ชื่อโฮสต์ที่เรคคอร์ด A เชื่อมโยงด้วย พิมพ์ @ เพื่อแม็พเรคคอร์ดไปยังชื่อโดเมนของคุณโดยตรง รวมถึง www
    • Points to (ชี้ไปที่) — ใส่ที่อยู่ IP ที่ชื่อโดเมนของคุณใช้สำหรับเรคอร์ดโฮสต์นี้
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  3. คลิก Save, จากนั้น คลิก Save Changes.

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด CNAME

เรคคอร์ด CNAME (นามแฝง) จะชี้ไปที่เรคคอร์ด A (โฮสต์) คุณสามารถสร้างเรคคอร์ด CNAME ได้หลายเรคคอร์ดและชี้เรคคอร์ดเหล่านั้นไปที่เรคคอร์ด A ได้ เรคคอร์ด CNAME ที่ใช้กันมากที่สุดคือโดเมนย่อย www และ ftp

เรคคอร์ด CNAME จะช่วยให้คุณจัดการข้อมูล DNS ได้ง่ายขึ้น หากคุณเปลี่ยนแปลงที่อยู่ IP ของเรคคอร์ด A เรคคอร์ด CNAME ทั้งหมดที่ชี้ไปยังเรคคอร์ด A จะติดตามที่อยู่ IP ใหม่โดยอัตโนมัติ อีกโซลูชันหนึ่งให้เลือก คือ เรคคอร์ด A หลายเรคคอร์ด ซึ่งไม่ได้ใช้งานง่ายเหมือนการใช้เรคคอร์ด CNAME

คุณสามารถคลิกที่ คืนค่าดีฟอลต์ ในส่วน CNAME (นามแฝง) ของโปรแกรมแก้ไขไฟล์โซนเพื่อคืนค่าดีฟอลต์ของเรคคอร์ด MX สำหรับชื่อโดเมนของคุณได้

การเพิ่มเรคคอร์ด CNAME

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Add Record (เพิ่มเรคคอร์ด)
  2. จากรายการ ประเภทเรคคอร์ด ให้เลือก CNAME (นามแฝง)
  3. กรอกฟิลด์ต่อไปนี้:
    • Enter an Alias Name (ใส่นามแฝง) — ใส่ชื่อโดเมนย่อยของการกำหนดนามแฝง ตัวอย่างเช่น พิมพ์ www
    • Points to Host Name (ชี้ไปที่ชื่อโฮสต์) — ใส่ชื่อโฮสต์ที่คุณต้องการให้นามแฝงชี้ไปถึง ตัวอย่างเช่น พิมพ์ @ เพื่อแม็พนามแฝงกับชื่อโดเมนของคุณโดยตรง
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  4. คลิก Save (บันทึก) จากนั้นคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง) เรคคอร์ด CNAME ใหม่จะแสดงในส่วน CNAME (Alias)

การแก้ไขเรคคอร์ด CNAME

  1. ในส่วน CNAME (Alias) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  2. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Host (โฮสต์) — ใส่ชื่อโดเมนย่อยของการกำหนดนามแฝง ตัวอย่างเช่น พิมพ์ www
    • Points to (ชี้ไปที่) — ใส่ชื่อโฮสต์ที่คุณต้องการให้นามแฝงชี้ไปถึง ตัวอย่างเช่น พิมพ์ @ เพื่อแม็พนามแฝงกับชื่อโดเมนของคุณโดยตรง
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  3. คลิก Save, จากนั้น คลิก Save Changes.

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด MX

เซิร์ฟเวอร์อีเมลจะรับและส่งข้อความอีเมลผ่านทางอินเทอร์เน็ต เรคคอร์ด MX (Mail Exchanger) จะระบุและจัดลำดับความสำคัญของเซิร์ฟเวอร์อีเมลขาเข้าที่จะรับข้อความอีเมลที่ส่งไปยังชื่อโดเมนของคุณ โดยที่มักจะไม่ต้องแก้ไขเรคคอร์ด MX ของคุณ แต่บางครั้ง คุณต้องอัพเดตเรคคอร์ดเหล่านั้น หากคุณโฮสต์เว็บไซต์กับเครือข่ายหนึ่ง แต่โฮสต์อีเมลกับอีกเครือข่ายหนึ่ง

โดยปกติแล้ว คุณจะมีเรคคอร์ด MX หลายเรคคอร์ดที่ถูกกำหนดให้แก่ชื่อโดเมนของคุณ ซึ่งสามารถป้องกันการสูญเสียข้อความอีเมลในช่วงเวลาที่ไม่มีกระแสไฟฟ้า เรคคอร์ด MX แต่ละเรคคอร์ดจะมีลำดับความสำคัญหรือหมายเลขเพื่อระบุลำดับที่เมลเซร์ฟเวอร์ขาเข้าของชื่อโดเมนคุณจะรับข้อความอีเมล เรคคอร์ด MX ที่มีหมายเลขต่ำที่สุดจะเป็นเมลเซร์ฟเวอร์แรกหรือหลักที่เมลเซิร์ฟเวอร์ขาออกจะพยายามส่งข้อความอีเมลของคุณ

ตัวอย่างเช่น หากคุณมี MX0 และ MX10 แล้ว MX0 เป็นเซิร์ฟเวอร์อีเมลหลักของคุณ ส่วน MX10 จะเป็นเซิร์ฟเวอร์อีเมลสำรอง หากเซิร์ฟเวอร์อีเมลหลักของคุณไม่สามารถใช้งานได้ เซิร์ฟเวอร์อีเมลสำรองจะจัดเก็บข้อความอีเมลของคุณจนกว่าเซิร์ฟเวอร์หลักจะกลับเข้าสู่โหมดออนไลน์

คุณสามารถคลิกที่ คืนค่าดีฟอลต์ ในส่วน MX (Mail Exchanger) ของโปรแกรมแก้ไขไฟล์โซนเพื่อคืนค่าดีฟอลต์ของเรคคอร์ด MX สำหรับชื่อโดเมนของคุณ

หมายเหตุ: คุณไม่สามารถกำหนดค่าชื่อโดเมนของคุณเพื่อใช้ผู้ให้บริการอีเมลมากกว่าหนึ่งรายต่อครั้ง หากคุณมีบัญชีอีเมลผ่านทางผู้ให้บริการอีเมลอีกรายและเปลี่ยนเรคคอร์ด MX ให้ชี้ไปที่เมลเซิร์ฟเวอร์ของเรา คุณจะไม่มีสิทธิ์ในการเข้าใช้บัญชีอีเมลของคุณ

ในการเพิ่มเรคคอร์ด MX

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Add Record (เพิ่มเรคคอร์ด)
  2. จากรายการ Record type (ประเภทเรคคอร์ด) เลือก MX (Mail Exchanger)
  3. กรอกฟิลด์ต่อไปนี้:
    • Priority (ลำดับความสำคัญ) — เลือกลำดับความสำคัญที่คุณต้องการจะกำหนดให้แก่เมลเซิร์ฟเวอร์
    • Host Name (ชื่อโฮสต์) — ใส่ชื่อโดเมนหรือโดเมนย่อยสำหรับเรคคอร์ด MX ตัวอย่างเช่น พิมพ์ @ เพื่อแม็พเรคคอร์ดกับชื่อโดเมนของคุณโดยตรง หรือใส่โดเมนย่อยของชื่อโดเมน เช่น www หรือ ftp
    • Enter Goes To Address (ใส่ไปยังที่อยู่) — ใส่ที่อยู่เมลเซิร์ฟเวอร์ เช่น smtp.secureserver.net
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  4. คลิก Save (บันทึก) จากนั้นคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง) เรคคอร์ด MX ใหม่จะแสดงในส่วน MX (Mail Exchanger)

ในการแก้ไขเรคคอร์ด MX

  1. ในส่วน MX (Mail Exchanger) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  2. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Priority (ลำดับความสำคัญ) — เลือกลำดับความสำคัญที่คุณต้องการจะกำหนดให้แก่เมลเซิร์ฟเวอร์
    • Host Name (ชื่อโฮสต์) — ใส่ชื่อโดเมนหรือโดเมนย่อยสำหรับเรคคอร์ด MX ตัวอย่างเช่น พิมพ์ @ เพื่อแม็พเรคคอร์ดกับชื่อโดเมนของคุณโดยตรง หรือใส่โดเมนย่อยของชื่อโดเมน เช่น www หรือ ftp
    • Points to (ชี้ไปยัง) — ใส่ที่อยู่เมลเซิร์ฟเวอร์ เช่น smtp.secureserver.net
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  3. คลิก Save, จากนั้น คลิก Save Changes.

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด TXT

เรคคอร์ด TXT (ตัวอักษร) เป็นเรคคอร์ดเชิงข้อมูลที่คุณสามารถใช้เพื่อให้ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับส่วนบริการชื่อ คุณสามารถใช้เรคคอร์ด TXT เพื่อรวมบันทึกเกี่ยวกับโฮสต์ หรือคุณสามารถปรับรูปแบบเรคคอร์ดเพื่อให้ข้อมูลด้านเทคนิคแก่เซิร์ฟเวอร์ การใช้รูปแบบ name=value เมื่อตัวอักษรที่นำหน้าสัญลักษณ์ = ตัวแรกคือชื่อและตัวอักษรอื่นๆ หลังจากสัญลักษณ์ = ตัวแรกคือค่า คุณสามารถใส่ตัวอักษรได้มากถึง 255 ตัวอักษร

หมายเหตุ: คุณสามารถสร้างเรคคอร์ด TXT หลายเรคคอร์ดได้ แต่ความยาวสะสมของเรคคอร์ดไม่สามารถเกิน 512 ตัวอักษร

ในการเพิ่มเรคคอร์ด TXT

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Add Record (เพิ่มเรคคอร์ด)
  2. จากรายการ Record type (ประเภทเรคคอร์ด) เลือก TXT (ตัวอักษร)
  3. กรอกฟิลด์ต่อไปนี้:
    • TXT Name (ชื่อ TXT) — ใส่ชื่อโฮสต์สำหรับเรคคอร์ด TXT ตัวอย่างเช่น พิมพ์ @ เพื่อแม็พเรคคอร์ดกับชื่อโดเมนของคุณโดยตรง หรือใส่โดเมนย่อยของชื่อโดเมน เช่น www หรือ ftp (ฟิลด์นี้จะถูกระบุเป็น Host (โฮสต์) ในส่วน TXT (Text) ของ Zone File Editor)
    • TXT Value (ค่า TXT) — ใสค่าที่คุณต้องการกำหนดให้กับเรคคอร์ด
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  4. คลิก Save (บันทึก) จากนั้นคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง) เรคคอร์ด TXT จะแสดงในส่วน TXT (Text)

ในการแก้ไขเรคคอร์ด TXT

  1. ในส่วน TXT (Text) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  2. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Host (โฮสต์) — ใส่ชื่อโฮสต์สำหรับเรคคอร์ด TXT ตัวอย่างเช่น พิมพ์ @ เพื่อแม็พเรคคอร์ดกับชื่อโดเมนของคุณโดยตรง หรือใส่โดเมนย่อยของชื่อโดเมน เช่น www หรือ ftp
    • TXT Value (ค่า TXT) — ใสค่าที่คุณต้องการกำหนดให้กับเรคคอร์ด
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  3. คลิก Save, จากนั้น คลิก Save Changes.

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด SPF

เรคคอร์ดเฟรมเวิร์กนโยบายตรวจสอบผู้ส่ง (Sender Policy Framework หรือ SPF) เป็นเรคคอร์ดประเภท TXT ที่ทำให้คุณสามารถกำหนดเมลเซิร์ฟเวอร์ขาออกของคุณได้อย่างแน่ชัดที่สามารถส่งอีเมลจากชื่อโดเมนของคุณได้ คุณสามารถใช้เรคคอร์ดเพื่อป้องกันสแปม เมื่อเมลเซิร์ฟเวอร์ขาเข้าได้รับข้อความอีเมลจากชื่อโดเมนของคุณ เซิร์ฟเวอร์จะเปรียบเทียบเรคคอรด SPF กับข้อมูลเมลเซิร์ฟเวอร์ขาออก หากข้อมูลไม่ตรงกัน เซิร์ฟเวอร์จะระบุให้ข้อความอีเมลเป็นข้อความที่ไม่ได้รับอนุญาต

ในการเพิ่มเรคคอร์ด SPF คุณต้องใช้ DNS Manager แบบคลาสสิคของเรา

ในการเพิ่มเรคคอร์ด SPF

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Use classic DNS Mananger
  2. คลิก Add New Record (เพิ่มเรคคอร์ดใหม่)
  3. จากรายการ Record type (ประเภทเรคคอร์ด) เลือก SPF (Sender Policy Framework)
  4. สำหรับ This domain sends mail through (โดเมนนี้จะส่งเมลผ่านทาง) ให้เลือกหนึ่งในตัวเลือกต่อไปนี้:
    • Us only (เฉพาะเราเท่านั้น) — จะส่งข้อความอีเมลจากเมลเซิร์ฟเวอร์ของเราเท่านั้น
    • Us and an ISP (ของเราและ ISP) — จะส่งข้อความอีเมลผ่านทางเมลเซิร์ฟเวอร์ของเราและของ ISP ของคุณ
    • An ISP or other mail provider (ISP หรือผู้ให้บริการอีเมลรายอื่น) — จะส่งอีเมลจากเมลเซิร์ฟเวอร์ของ ISP ของคุณ หรือจากผู้ให้บริการอีเมลรายอื่น
    • No email is sent from this domain (ไม่มีอีเมลที่ส่งจากโดเมนนี้) — จะไม่ส่งอีเมลจากชื่อโดเมนนี้
  5. จากแถบ Inbound (ขาเข้า) ให้ทำต่อไปนี้:
    • All Inbound Servers May Send Mail (เซิร์ฟเวอร์ขาเข้าทั้งหมดอาจส่งอีเมล) — เลือกตัวเลือกนี้เพื่อยอมให้เมลเซิร์ฟเวอร์ขาเข้าใดๆ สามารถส่งข้อความอีเมลได้ เมลเซิร์ฟเวอร์ขาเข้าส่วนใหญ่จะส่ง NDR ขาออก (การแจ้งว่าไม่สามารถส่งข้อความถึงผู้รับ)
    • Select individual servers (เลือกเซิร์ฟเวอร์เฉพาะราย) — เลือกเมลเซิร์ฟเวอร์ขาเข้าที่จะยอมให้มีการรับข้อความอีเมล
    • Enter Additional MX Addresses (ใส่ที่อยู่ MX เพิ่มเติม (บรรทัดละหนึ่งที่อยู่)) — (ตัวเลือก) ใส่ที่อยู่ MX (Mail Exchanger) ขาเข้าเพิ่มเติมที่ยอมให้มีการรับข้อความอีเมล
    • Exclude all hosts not specified here (-all) (ไม่รวมโฮสต์ทั้งหมดที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่ (-ทั้งหมด)) — (ตัวเลือก) เลือกตัวเลือกนี้เพื่อบล็อคเมลเซิร์ฟเวอร์ขาเข้าใดๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่จากการรับข้อความอีเมล
  6. จากแถบ Outbound (ขาออก) ให้ทำต่อไปนี้:
    • All Addresses in A Records (ที่อยู่ทั้งหมดในเรคคอร์ด A) — เลือกตัวเลือกนี้หากที่อยู่ IP ที่แสดงไว้ในเรคคอร์ด A ของคุณสำหรับชื่อโดเมนเป็นเมลเซิร์ฟเวอร์ขาออกเช่นกัน
    • Enter Additional A Addresses (ใส่ที่อยู่ A เพิ่มเติม (บรรทัดละหนึ่งที่อยู่)) — (ตัวเลือก) ใส่ที่อยู่ A ขาออกเพิ่มเติมที่ยอมให้มีการส่งข้อความอีเมล
    • Exclude all hosts not specified here (-all) (ไม่รวมโฮสต์ทั้งหมดที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่ (-ทั้งหมด)) — (ตัวเลือก) เลือกตัวเลือกนี้เพื่อบล็อคเมลเซิร์ฟเวอร์ขาออกใดๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่จากการส่งข้อความอีเมล
  7. จากแถบ PTR ให้ทำต่อไปนี้:
    • PTR (DNS Lookup) (PTR (การหา DNS)) — เลือกตัวเลือกนี้เพื่อยอมให้เซิร์ฟเวอร์ที่ลงท้ายด้วยชื่อโดเมนของคุณทั้งหมดสามารถส่งข้อความอีเมลได้
    • Enter Additional PTR Addresses (ใส่ที่อยู่ PTR เพิ่มเติม (บรรทัดละหนึ่งที่อยู่)) — (ตัวเลือก) ใส่ที่อยู่ PTR เพิ่มเติมที่ยอมให้มีการส่งข้อความอีเมล
    • Exclude all hosts not specified here (-all) (ไม่รวมโฮสต์ทั้งหมดที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่ (-ทั้งหมด)) — (ตัวเลือก) เลือกตัวเลือกนี้เพื่อบล็อคเมลเซิร์ฟเวอร์ขาออกใดๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่จากการส่งข้อความอีเมล

      หมายเหตุ: PTR หมายถึงเรคคอร์ด DNS แบบตรวจย้อนกลับ ในเรคคอร์ด SPF รวมทั้ง PTR แจ้งเซิร์ฟเวอร์ SMTP ที่รับให้ทำการหา DNS แบบตรวจย้อนกลับเพื่อหาที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ที่ส่งให้สมบูรณ์และคาดว่าจะได้การตอบที่ตรงกัน หากคุณใส่ที่อยู่ PTR เพิ่มเติม การตอบที่ลงท้ายด้วยชื่อโดเมนจะถือว่าเป็นการตรงกันที่ถูกต้อง

  8. จากแถบ Outsourced (แบบบริการเบ็ดเสร็จ) ให้ทำต่อไปนี้:
    • Enter Outsourced Domains (ใส่โดเมนแบบบริการเบ็ดเสร็จ (บรรทัดละหนึ่งโดเมน)) — หาก ISP หรือเซิร์ฟเวอร์ภายนอกอื่นๆ ส่งข้อความอีเมลจากชื่อโดเมนของคุณ ให้ใส่ชื่อโดเมนภายนอกที่คุณใช้
    • Exclude all hosts not specified here (-all) (ไม่รวมโฮสต์ทั้งหมดที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่ (-ทั้งหมด)) — (ตัวเลือก) เลือกตัวเลือกนี้เพื่อบล็อคเมลเซิร์ฟเวอร์ขาออกใดๆ ที่ไม่ได้ระบุไว้ที่นี่จากการส่งข้อความอีเมล
  9. คลิกที่ Save Zone File (บันทึกโซนไฟล์) จากนั้นคลิก OK เรคคอร์ด SPF จะแสดงในส่วน TXT (Text)

ในการแก้ไขเรคคอร์ด SPF

  1. ให้ไปที่โปรแกรมแก้ไขไฟล์โซนสำหรับชื่อโดเมนที่คุณต้องการอัพเดต
  2. ในส่วน TXT (Text) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  3. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Host (โฮสต์) — ใส่ชื่อโฮสต์สำหรับเรคคอร์ด TXT ตัวอย่างเช่น พิมพ์ @ เพื่อแม็พเรคคอร์ดกับชื่อโดเมนของคุณโดยตรง หรือใส่โดเมนย่อยของชื่อโดเมน เช่น www หรือ ftp
    • TXT Value (ค่า TXT) — ใสค่าที่คุณต้องการกำหนดให้กับเรคคอร์ด
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  4. คลิก บันทึกไฟล์โซน แล้วคลิก ตกลง

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด SRV

เรคคอร์ด SRV (ส่วนบริการ) เป็นเรคคอร์ดทรัพยากรที่ใช้เพื่อระบุคอมพิวเตอร์ที่โฮสต์ส่วนบริการเฉพาะบางอย่าง เช่น FTP ตัวอย่างเช่นเครื่องลูกข่ายอาจขอเรคคอร์ด SRV เพื่อหาชื่อโฮสต์ที่ให้บริการสำหรับชื่อโดเมนเฉพาะ ส่วนบริการอาจถูกใช้บนชื่อโดเมนนั้นหรือชื่อโดเมนอื่นอาจเรียกส่วนบริการก็ได้

ในการเพิ่มเรคคอร์ด SRV

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Add Record (เพิ่มเรคคอร์ด)
  2. จากรายการ Record type (ประเภทเรคคอร์ด) เลือก SRV (Service)
  3. กรอกฟิลด์ต่อไปนี้:
    • Service (บริการ) — ใส่ชื่อบริการของเรคคอร์ด SRV นี้ ชื่อควรเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายสัญประกาศ (ขีดเส้นใต้) เช่น _ldap, _ftp หรือ _smtp
    • Protocol (โพรโทคอล) — ใส่โพรโทคอลที่บริการใช้ ชื่อควรเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายสัญประกาศ (ขีดเส้นใต้) เช่น _tcp หรือ _udp
    • ชื่อ — ใส่ชื่อโฮสต์หรือชื่อโดเมนที่ SRV เชื่อมโยงด้วย เช่น server1 หากคุณต้องการจะเชื่อมโยงเรคคอร์ดกับชื่อโดเมนของคุณ ให้พิมพ์ @
    • Priority (ลำดับความสำคัญ) — เลือกลำดับความสำคัญของเรคคอร์ด SRV สำหรับหลายเรคคอร์ดที่มีชื่อและบริการเดียวกัน เครื่องลูกข่ายจะใช้หมายเลขลำดับความสำคัญเพื่อเลือกว่าจะติดต่อเป้าหมายใดก่อนเป็นอันดับแรก
    • Weight (น้ำหนัก) — เลือกน้ำหนักสำหรับเรคคอร์ด SRV สำหรับหลายเรคคอร์ดที่มีชื่อ บริการ และลำดับความสำคัญเดียวกัน เครื่องลูกข่ายจะใช้หมายเลขน้ำหนักเพื่อเลือกว่าจะติดต่อเป้าหมายใดก่อนเป็นอันดับแรก
    • Port (พอร์ต) — ใส่หมายเลขพอร์ตของบริการ เช่น 80 หรือ 21
    • Target (เป้าหมาย) — ใส่ชื่อโฮสต์ของเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการตามที่เรคคอร์ดนี้ให้รายละเอียดไว้ ตัวอย่างเช่น พิมพ์ ftp.coolexample.com ชื่อโฮสต์นี้จะต้องเป็นประเภท A หรือ AAAA ในโซน DNS ของชื่อโดเมนที่ให้บริการ
  4. คลิก Save (บันทึก) จากนั้นคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง) เรคคอร์ด SRV จะแสดงในส่วน SRV (Service)

ในการแก้ไขเรคคอร์ด SRV

  1. ในส่วน SRV (Service) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  2. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Service (บริการ) — ใส่ชื่อบริการของเรคคอร์ด SRV นี้ ชื่อควรเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายสัญประกาศ (ขีดเส้นใต้) เช่น _ldap, _ftp หรือ _smtp
    • Protocol (โพรโทคอล) — ใส่โพรโทคอลที่บริการใช้ ชื่อควรเริ่มต้นด้วยเครื่องหมายสัญประกาศ (ขีดเส้นใต้) เช่น _tcp หรือ _udp
    • ชื่อ — ใส่ชื่อโฮสต์หรือชื่อโดเมนที่ SRV เชื่อมโยงด้วย เช่น server1 หากคุณต้องการจะเชื่อมโยงเรคคอร์ดกับชื่อโดเมนของคุณ ให้พิมพ์ @
    • Priority (ลำดับความสำคัญ) — เลือกลำดับความสำคัญของเรคคอร์ด SRV สำหรับหลายเรคคอร์ดที่มีชื่อและบริการเดียวกัน เครื่องลูกข่ายจะใช้หมายเลขลำดับความสำคัญเพื่อเลือกว่าจะติดต่อเป้าหมายใดก่อนเป็นอันดับแรก
    • Weight (น้ำหนัก) — เลือกน้ำหนักสำหรับเรคคอร์ด SRV สำหรับหลายเรคคอร์ดที่มีชื่อ บริการ และลำดับความสำคัญเดียวกัน เครื่องลูกข่ายจะใช้หมายเลขน้ำหนักเพื่อเลือกว่าจะติดต่อเป้าหมายใดก่อนเป็นอันดับแรก
    • Port (พอร์ต) — ใส่หมายเลขพอร์ตของบริการ เช่น 80 หรือ 21
    • Target (เป้าหมาย) — ใส่ชื่อโฮสต์ของเซิร์ฟเวอร์ที่ให้บริการตามที่เรคคอร์ดนี้ให้รายละเอียดไว้ ตัวอย่างเช่น พิมพ์ ftp.coolexample.com ชื่อโฮสต์นี้จะต้องเป็นประเภท A หรือ AAAA ในโซน DNS ของชื่อโดเมนที่ให้บริการ
  3. คลิก Save, จากนั้น คลิก Save Changes.

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด AAAA

เรคคอร์ด AAAA จะเก็บที่อยู่อินเทอร์เน็ตโพรโทคอลเวอร์ชัน 6 (IPv6) ที่ไม่ต้องตรงตามรูปแบบเรคคอร์ด A มาตรฐาน ตัวอย่างเช่น 2001:0db8::85a3:0000:0000:6a2e:0371:7234 เป็นที่อยู่ 128 บิต/IPv6 ที่ถูกต้อง เรคคอร์ดจะแม็พชื่อโฮสต์กับที่อยู่ที่เกี่ยวข้องกับชื่อโดเมน และระบุว่าเรคคอร์ด AAAA ต้องได้รับการประมวลผล

ในการเพิ่มเรคคอร์ด AAAA

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Add Record (เพิ่มเรคคอร์ด)
  2. จากรายการ Record type (ประเภทเรคคอร์ด) เลือก AAAA
  3. กรอกฟิลด์ต่อไปนี้:
    • Host Name (ชื่อโฮสต์) — ใส่ชื่อโฮสต์หรือชื่อโดเมนที่ AAAA เชื่อมโยงด้วย
    • Points to IPv6 Address (ชี้ไปที่ที่อยู่ IPv6) — ใส่ที่อยู่แบบ 128 บิต
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  4. คลิก Save (บันทึก) จากนั้นคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง) เรคคอร์ด AAAA จะแสดงในส่วน AAAA (IPv6)

ในการแก้ไขเรคคอร์ด AAAA

  1. ในส่วน AAAA (IPv6) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  2. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Host (โฮสต์) — ใส่ชื่อโฮสต์หรือชื่อโดเมนที่ AAAA เชื่อมโยงด้วย
    • Points to (ชี้ไปที่) — ใส่ที่อยู่แบบ 128 บิต
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  3. คลิก Save, จากนั้น คลิก Save Changes.

การเพิ่มหรือการแก้ไขเรคคอร์ด NS

เรคคอร์ด NS (เนมเซิร์ฟเวอร์) จะให้อำนาจแก่เนมเซิร์ฟเวอร์ภายนอกให้บริหาร DNS สำหรับโดเมนย่อยของคุณ ในทุกๆ โซนไฟล์ จะต้องมีเรคคอร์ด NS อย่างน้อย 2 เรคคอร์ด เมื่อคุณเพิ่มเรคคอร์ด NS สำหรับโดเมนย่อย โดเมนย่อยและชื่อโดเมนของคุณมีโซนไฟล์แตกต่างกันบนเซิร์ฟเวอร์ภายนอก

หากชื่อโดเมนของคุณจดทะเบียนกับเรา ใช้ขั้นตอนต่อไปนี้เพื่ออัพเดทเนมเซิร์ฟเวอร์ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับวิธีที่คุณใช้หรือโฮสต์ชื่อโดเมน

หมายเหตุ: หลังจากที่คุณเพิ่มเรคคอร์ด NS DNS ของคุณยังคงจะแสดงในระบบของเราเป็นเวลานานถึง 48 ชั่วโมง หลังจากที่อัพเดทของคุณแพร่กระจาย คุณจะไม่สามารถเข้าถึง DNS ของคุณในระบบของเราอีกต่อไป คุณต้องติดต่อผู้ให้บริการภายนอกของคุณเพื่อกำหนดโซนไฟล์ที่ตรงกันสำหรับชื่อโดเมนของคุณ เพื่อทำการอัพเดทใดๆ ในอนาคตกับ DNS ของคุณ

ในการเพิ่มเรคคอร์ด NS

  1. ใน DNS Zone File คลิกที่ Add Record (เพิ่มเรคคอร์ด)
  2. จากรายการ Record type (ประเภทเรคคอร์ด) เลือก NS (Name Server)
  3. กรอกฟิลด์ต่อไปนี้:
    • Host Name (ชื่อโฮสต์) — ใส่โดเมนย่อยที่คุณต้องการจะเพิ่มเรคคอร์ด NS ให้
    • Points to Host Name (ชี้ไปที่ชื่อโฮสต์) — ใส่เนมเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการใช้เพื่อบริหารโดเมนย่อยของคุณ
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  4. คลิก Save (บันทึก) จากนั้นคลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง) เรคคอร์ด NS จะแสดงในส่วน NS (Name Server)

ในการแก้ไขเรคคอร์ด NS

  1. ในส่วน NS (Name Server) ถัดจากเรคคอร์ดที่คุณต้องการจะเปลี่ยนแปลง ให้คลิก Edit Record (แก้ไขเรคคอร์ด)
  2. แก้ไขฟิลด์ใดก็ได้ต่อไปนี้:
    • Host (โฮสต์) — ใส่โดเมนย่อยที่คุณต้องการจะเพิ่มเรคคอร์ด NS ให้
    • Points to (ชี้ไปที่) — ใส่เนมเซิร์ฟเวอร์ที่คุณต้องการใช้เพื่อบริหารโดเมนย่อยของคุณ
    • TTL — เลือกระยะเวลาที่เซิร์ฟเวอร์ควรใช้ในการแคชข้อมูล
  3. คลิก Save, จากนั้น คลิก Save Changes.

การกรองเรคคอร์ด

คุณสามารถกรองเรคคอร์ด DNS สำหรับโซนไฟล์ของคุณได้ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถใช้ตัวกรองเพื่อดูเฉพาะเรคคอร์ด A ได้

ในการฟิลเตอร์เรคคอร์ด

  1. ไปที่แถบ DNS Zone File (DNS โซนไฟล์) ของชื่อโดเมนที่คุณต้องการอัพเดท
  2. ในส่วน ฟิลเตอร์ ให้เลือกเรคคอร์ดโซนที่คุณต้องการดู

การลบเรคคอร์ด

ใน Zone File Editor คุณสามารถลบเรคคอร์ด DNS ที่คุณไม่ต้องการใช้อีกต่อไปได้

ในการลบเรคคอร์ด

  1. ไปที่แถบ DNS Zone File (DNS โซนไฟล์) ของชื่อโดเมนที่คุณต้องการอัพเดท
  2. เลือกเรคคอร์ดที่คุณต้องการลบ จากนั้นคลิก Delete (ลบ)
  3. คลิก Save Changes (บันทึกการเปลี่ยนแปลง)

การตรวจสอบเรคคอร์ดของคุณ

ใน Zone File Editor คุณสามารถตรวจเรคคอร์ดโซนไฟล์ของชื่อโดเมนเพื่อทำให้แน่ใจว่าไฟล์เหล่านั้นถูกต้อง ผลลัพธ์จะแสดงถัดจากแต่ละเรคคอร์ดโซนไฟล์ หากหนึ่งในเรคคอร์ดไม่ถูกต้อง คุณสามารถแก้ไขให้ถูกต้องได้

คุณสมบัติ Check Zone Records (ตรวจสอบเรคคอร์ดโซน) จะทำการตรวจสอบความถูกต้องในระดับเรคคอร์ด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คุณสมบัติจะดูที่เรคคอร์ดของคุณแล้วทำให้แน่ใจว่าชื่อโดเมน โดเมนย่อย และชื่อโดเมนที่ถูกส่งต่อจะมีที่อยู่ IP ที่ถูกต้อง ตัวอย่างเช่น หากคุณสร้างโดเมนย่อยที่ขาดที่อยู่ IP หน้าต่าง Zone File Errors (ข้อผิดพลาดของโซนไฟล์) จะแสดงข้อผิดพลาดในคอลัมน์ Status (สถานะ) และจะให้ตัวเลือก Fix (แก้ไข)

ในการตรวจสอบเรคคอร์ดโซนไฟล์ของชื่อโดเมนของคุณ

  1. คลิกที่ตัวเลือก Edit (แก้ไข) เพื่อไปยัง Zone File Editor
  2. จากไอคอน More (เพิ่มเติม) ให้คลิกที่ Check Zone Records (ตรวจสอบเรคคอร์ดโซน)

    หมายเหตุ: หากเรคคอร์ดของคุณไม่มีข้อผิดพลาด ข้อความ Success จะแสดงขึ้น หากเรคคอร์ดของคุณมีข้อผิดพลาด ให้คลิก Fix (แก้ไข) เพื่อแก้ไขปัญหา

  3. ตรวจทานผลลัพธ์โซนไฟล์ จากนั้นคลิก Close (ปิด)